Webboard>>> มีข่าวเหล็กมาฝากแฟนๆเหล็กจ้า <<<
|
Dr.steel (Member) |
คิดว่าคงจะพอมีประโยชน์กับท่านผู้ประกอบการและลูกค้าทุกท่าน ในการประมาณการราคาเหล็กบ้างนะครับ สัมภาษณ์พิเศษ : “อีซี่ทรัส” ผวาราคาเหล็กทรุด ตั้งการ์ดรับชูบริการขายโครงหลังคา “อีซี่ทรัส” ผวาราคาเหล็กทรุด ตั้งการ์ดรับชูบริการขายโครงหลังคา “อี ซี่ทรัส” เดินหน้าฝ่าวิกฤติกระแสราคาเหล็กลดลงต่อเนื่อง ช่วง มี.ค.-พ.ค. ลดไปแล้ว 20% ตั้งการ์ดรับธุรกิจโครงสร้างหลังคาสำเร็จรูป ชูกลยุทธ์เน้นให้บริการลูกค้าเต็มรูปแบบ หวังสร้างความประทับใจแก่ลูกค้า ขณะเดียวกันเดินหน้าหาลูกค้าใหม่เพิ่ม หลังวอลุ่มขายสินค้าลดลง ย้ำลูกค้าหลักยังเป็นสมาชิกธุรกิจรับสร้างบ้าน พร้อมโชว์ยอดขายไตรมาสแรกกวาดไปแล้ว 50 ล้านบาท นายสรพล คงรอด กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฮาส์ เฟรนด์ลี่ โปรดักส์ จำกัด ผู้ผลิตโครงหลังคาเหล็กสำเร็จรูป แบรนด์ อีซี่ทรัส (EASY TRUSS) เปิดเผยถึงสถานการณ์ตลาดเหล็กในปัจจุบันนี้ว่า ต้องยอมรับช่วงนี้หลังจากต้นปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะเศรษฐกิจทั่วโลกได้รับผลกระทบ รวมไปถึงปัจจัยทางการเมืองในบ้านเราที่เป็นอยู่ในเวลานี้ ตลาดราคาเหล็กไม่ว่าจะเป็น เหล็กรูปพรรณ เหล็กแผ่นรีดร้อนเย็น ซึ่งสถานการณ์ของปัจจัยลบ ส่งผลให้ราคาเหล็กมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ทั้ง นี้จากการรวบรวมข้อมูลของบริษัทฯ ตั้งแต่เดือนมีนาคม-เมษายนที่ผ่านมา ราคาเหล็กลดลงประมาณ 10% และระหว่างเดือนเมษายน-พฤษภาคม มีแนวโน้มลดลงอีก 10% เท่ากับว่าช่วงระยะเวลา 3 เดือน ราคาเหล็กลดลงไปถึง 20% เป็นผลทำให้ราคาเหล็กเกิดความผันผวนอย่างหนักในเวลานี้ “ปัจจุบัน บริษัทฯ มีการปรับลดราคาเหล็กอย่างต่อเนื่อง เราจะขายโครงสร้างหลังคาให้เท่ากับราคาต้นทุนของเหล็กในราคาของตลาดโลกมาก ที่สุด ซึ่งบริษัทฯ จะมีการปรับราคาขายทุกเดือน สืบเนื่องจากเทรนด์ของเหล็กมีแนวโน้มปรับลดลง ซึ่งยอมรับว่ามันน่าวิตกกังวลว่า ราคามันอาจจะลดลงมาก ซึ่งเป็นผลเสียหากมองในเรื่องของจำนวนวอลุ่ม โดยเฉพาะยกตัวอย่าง พื้นที่ที่เคยขายได้สมมุติ 100 ตารางเมตร ซึ่งตารางเมตรละ 100 บาท แต่ตอนนี้ราคาเหล็กลดลงไป 20% เท่ากับว่าบริษัทฯ ขายได้เพียง 80 บาทต่อตารางเมตรเท่านั้น” นายสรพล กล่าว นายสรพล กล่าวต่อว่า สำหรับผลกระทบดังกล่าวนี้ ทำให้บริษัทฯ มีผลกระทบ โดยเฉพาะยอดรายได้ของบริษัทฯ นั้นจะหายลงไปทันที เนื่องจากมูลค่าของสินค้ามันลดลง ซึ่งต้องยอมรับว่ามันลดลงเป็นไปตามกลไกตามสถานการณ์ตลาด ทั้งนี้ ในส่วนของสถานการณ์ตลาดราคาเหล็ก ซึ่งคาดว่าในช่วงเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้ราคาเหล็กจะมีการปรับตัวลดลงไปอีก แน่นอน สำหรับแนวโน้มตลาดหลังคาในปีนี้คาดว่าจะทรงตัวอยู่ในระดับ เดียวกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากผู้บริโภคยังชะลอการตัดสินใจเพื่อดูสถานการณ์เศรษฐกิจว่าจะมีทิศ ทางอย่างไร ในขณะเดียวกันมาตรการอสังหาริมทรัพย์ที่ออกมาก็ไม่ได้ส่งผลดีต่อตลาดรับ สร้างบ้านเพราะไม่ครอบคลุมถึงกลุ่มธุรกิจรับสร้างบ้าน ทำให้ยังไม่มีปัจจัยบวกตัวใหม่เข้ามากระตุ้นการตัดสินใจของลูกค้า อย่าง ไรก็ตาม ขณะนี้บริษัทฯ มีมาตรการรองรับกับสถานการณ์ดังกล่าวนี้แล้วเช่นกัน โดยเฉพาะการนำกลยุทธ์ทางการค้าเข้ามาใช้เพื่อเป็นตัวเสริมในช่วงราคาเหล็ก กำลังวิกฤติ โดยเฉพาะการให้บริการกับลูกค้ามากขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้เราก็มีการให้บริการแก่ลูกค้า แต่ในครั้งนี้ บริษัทฯ ของเราจะรุกในเรื่องของการบริการแก่ลูกค้ามากยิ่งขึ้น รวมไปถึงการแสวงหาลูกค้ารายใหม่ๆ เพิ่มเติม ซึ่งปัจจุบันนี้ บริษัทฯ มีลูกค้ารายใหม่เพิ่มขึ้น 5 ราย ซึ่งส่วนใหญ่จะมาจากสมาชิกของสมาคมรับสร้างบ้านที่ใช้บริการ และในส่วนของธุรกิจบ้านจัดสรรในปัจจุบันนี้ ยังไม่มีการใช้บริการ เนื่องจากสถานการณ์ตลาดบ้านจัดสรรยังอยู่ในภาวะที่ได้รับผลกระทบ ทำให้ความคืบหน้าในการก่อสร้างโครงการใหม่ๆ จึงชะลอแผนลงไป “มองว่า สถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับราคาเหล็กนั้น ทุกอย่างขึ้นอยู่กับภาวะของตลาดโลกแทบทั้งสิ้น ซึ่งบริษัทฯ ของเราก็มีการปรับตัวเพื่อรับมือกับสถานการณ์ตรงนี้ และยอมรับว่ายอดขายของเราก็มีผลกระทบแต่เราก็มีการรองรับเตรียมการตรงนี้เอา ไว้แล้ว ทำให้ยอดขายช่วงต้นปีถึงปัจจุบันนี้ยังอยู่ในภาวะที่ปกติ” นาย สรพล กล่าวว่า ล่าสุด มีผู้ประกอบการกลุ่มผลิตวัสดุมุงหลังคารายใหญ่รายหนึ่งได้มาติดต่อกับ บริษัทฯ เพื่อทาบทามให้ร่วมธุรกิจการค้ากันระหว่าง 2 บริษัทฯ ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการเจรจา โดยการเจรจานั้น ผู้ประกอบการดังกล่าวต้องการที่จะเข้ามาร่วมทำธุรกิจ โดยในส่วนของโครงสร้างหลังคาสำเร็จ ซึ่งผู้ประกอบการรายดังกล่าวต้องการที่จะทำเป็นธุรกิจโครงสร้างหลังคากับ กระเบื้องอย่างเต็มระบบครบวงจร และคาดว่าการเจรจาดังกล่าวจะสำเร็จผลในเวลาอันใกล้นี้ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของผลประกอบการในช่วงไตรมาสแรกยอมรับว่า ยังสามารถปิดการขายได้ตามเป้าหมายที่บริษัทฯ ตั้งเป้าเอาไว้ ซึ่งสามารถมียอดขายเฉพาะในช่วง 3 เดือนของปี สามารถทำยอดขายได้ถึง 50 ล้านบาท ซึ่งจากเป้าหมายที่บริษัทฯ ตั้งเอาไว้ทั้งปีประมาณ 120 ล้านบาท สำหรับ ลูกค้าหลักของบริษัทยังคงเป็นกลุ่มบริษัทรับสร้างบ้านโดยมีสัดส่วนอยู่ที่ ประมาณ 80% ในขณะที่อีก 20% เป็นกลุ่มลูกค้ารายย่อยบ้านสร้างเอง และบริษัทรับเหมาก่อสร้าง รวมถึงโครงการบ้านจัดสรร ปัจจุบันบริษัทมีกำลังผลิตรวมประมาณ 150 หลังต่อเดือน ซึ่งขณะนี้บริษัทใช้กำลังผลิตอยู่ประมาณ 70-80% ทั้งนี้หากในอนาคตความต้องการในตลาดเพิ่มสูงขึ้นคาดว่าจะสามารถรองรับความ ต้องการได้อีก โดย บ้านเมืองออนไลน์ เมื่อเวลา 9:44:00 วันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ.2552 |
|
111111111 |
พนักงานพูดจาฟังไม่เข้าหูเลย อีซี่ทรัส |
Page : 1
แสดงความคิดเห็น
